"ภูมิธรรม"เยี่ยมชมการจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด ที่ตลาดน้ำขวัญเรียม
“ภูมิธรรม” ย้ำลดราคาสินค้าได้เห็นแน่
หลังทำการวิเคราะห์ต้นทุนรายตัว เริ่มเห็นสัญญาณดี แม้จะลดไม่ได้ทั้งหมด แต่มีแน่
คาดต้น ต.ค.นี้ ชัดเจน ส่วนการเปิดจุดจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด
จะเดินหน้าต่อไป เพื่อดูแลพี่น้องประชาชน ให้สามารถซื้อสินค้าราคาประหยัด และลดภาระค่าครองชีพ
เผยจะดึงร้านธงฟ้า เข้าร่วมใช้จ่ายในโครงการดิจิทัล วอลเล็ตด้วย
นายภูมิธรรม
เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมชมการจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด ที่ตลาดน้ำขวัญเรียม วัดบำเพ็ญเหนือ/วัดบางเพ็งใต้ เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า
ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์กำลังติดตามการลดราคาสินค้า หลังจากที่ต้นทุนการขนส่งได้ปรับลดลง
จากการปรับลดราคาน้ำมันดีเซล โดยได้ทำการคำนวณต้นทุนสินค้าแต่ละรายการแล้ว
แม้จะลดไม่ได้หมด แต่จะพยายามเอาส่วนต่าง ๆ มาลดให้ได้
โดยเฉพาะสินค้าที่อยู่ในชีวิตประจำวันของประชาชน ตัวไหนลดได้ จะลดทันที
ตัวไหนที่ลดไม่ได้ จะพยายามตรึงราคาไว้ และมีการติดตามอย่างใกล้ชิด
เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน
และถ้าหากมีปัจจัยเงื่อนไขอื่นที่สามารถลดราคาได้อีก ก็จะพยายามให้ปรับลดลง
โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงต้นเดือน ต.ค.2566 นี้
ส่วนการเปิดจุดจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัดนี้
เป็นโครงการที่กระทรวงพาณิชย์ทำคู่ขนานไป จากที่จะดูแลประชาชนในวงกว้าง
ก็ทำการเปิดจุดจำหน่ายเจาะลึกไปยังแหล่งชุมชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีจำนวน
100 จุด
โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการ นำสินค้าราคาประหยุดถูกกว่าท้องตลาดประมาณ 50-60% มาจำหน่ายให้กับพี่น้องประชาชน
ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่คนตัวใหญ่ช่วยคนตัวเล็ก
โดยสินค้าที่นำมาลดราคา เช่น ข้าวสาร ไข่ไก่ น้ำมันพืช หมูเนื้อแงด ไก่ นม
อาหารต่าง ๆ ซองปรุงรส อาหารกระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เครื่องอุปโภคบริโภค
เป็นต้น และยังมีผลไม้ตามฤดูกาล ซึ่งตอนนี้เป็นมังคุด และลองกอง
สำหรับนโยบายดิจิทัล
วอลเล็ต กระทรวงพาณิชย์จะเข้าไปดูแล
เพื่อให้มีจุดจำหน่ายสินค้าให้ครอบคลุมทั้งประเทศ
เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ได้ โดยร้านธงฟ้า จะผลักดันให้เข้าในโครงการ
เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน ส่วนผู้ประกอบการรายย่อยที่กังวงเรื่องการเก็บภาษี
มองว่าอย่าไปกังวล เพราะไม่ใช่เป้าหมายของรัฐบาล เป้าหมายของรัฐบาล คือ
จะกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งผู้ได้ประโยชน์ คือ ทุกคนทั่วหน้าทุกฝ่าย
ทั้งพี่น้องประชาชน ซึ่งถ้าเศรษฐกิจดี ก็จะมีชีวิตที่ดีขึ้น การจับจ่ายใช้สอยก็จะดีขึ้น การจ้างงานต่าง ๆ
จะเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการรายเล็ก รายกลาง
ก็จะได้รับประโยชน์จากการกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจด้วย หวังว่า 6 เดือนที่ใช้เงินจำนวนนี้
จะกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมให้มันดีขึ้น ประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและการสร้างงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น