ชวนเที่ยวภูทับเบิก ชมทะเลหมอก ดุจดั่งแดนสวรรค์ สวยงามเหมือนutopia ,จังหวัดเพชรบูรณ์ ไทยแลนด์

จำได้เมื่อหลายปีก่อนเขาค้อคือสุดยอดแห่งทะเลหมอกและอากาศหนาว แต่พอได้มาสัมผัสกับ

ภูทับเบิก ทำให้ลืมเขาค้อไปเลย ไปแล้วก็อยากไปอีก 

        วันนั้นเช้าวันเสาร์ ออกเดินทางตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าจากกรุงเทพ ถึงเพชรบูรณ์11:30 ออกจากตัวเมืองไปถึงยอดภูทับเบิก12:30 เพราะขับกันไปช้าๆ ไปครั้งแรก  แต่ไม่เข้าใจอยู่1อย่างคือ พอเข้าตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ เจอแต่ป้าย "หลวงพระบาง" เยอะมาก พอเลยตัวเมืองทางไปพิษณุโลก หล่มสัก ยิ่งเจอถี่มาก รวมถึงป้ายเมืองพนมเปญ เนปิดอร์เพียบ นึกว่าขับอยู่ต่างประเทศ ป้ายเพชรบูรณ์มีน้อยมาก พอถึงช่วงจะเลี้ยวขึ้นภู แวะเซเว่นปากซอยชื้อเสบียงตุนไว้ 

        ยอมรับว่าตื่นเต้นเล็กน้อยตอนขับรถขึ้นภู เพราะทางขึ้นสูงชัน คดโค้ง และเหวลึกมาก เขาจะมีจุดพักรถ เป็นช่่วงๆ เราก็หยุดพักหนึ่งครั้ง เพื่อถ่ายภาพชมวิว แต่พอขึ้นไปถึงภูทับเบิกก็ตื่นเต้น เพราะความงดงามของทิวทัศน์ ภูทับเบิก  เราจึงแวะทานมื้อเที่ยง ตรงทางขึ้นหอดูดาว 

        เมื่อทานมื้อเที่ยงเสร็จ ก็ขับต่อเพื่อไปเชกอินที่ ภูสวรรค์ ซึ้งเป็นแลนด์มาร์ค 1ใน5 ของที่พักบนภูทับเบิก ได้จองล่วงหน้าไว้2สัปดาห์ 2คืน คืนแรกจองไว้2ห้อง คืนที่2จองห้องพัก1ห้องและเต้นท์1หลัง เพราะอยากได้บรรยากาศเต้นท์ท่ามกลางอากาศหนาวด้วย 

       พอเชกอินเข้าที่พักๆจู่ๆ หมอกมาปกคลุม มืดครึมไปหมดมองอะไรไม่เห็น แล้วฝนก็ตามมา จนถึง16:40ฝนหยุดตก จึงขับรถออกไปหมู่บ้านของชาวม้งและไปวัดป่าภูทับเบิก มีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะไปที่วัด เพราะตอนขับรถก่อนขึ้นภูจะเห็นยอดวัดป่า มองสูงขึ้นไปแล้วร้อง"โอ๊ะโอ เราต้องขึ้นไปถึงนั้นเลยเหรอ " แต่ในที่สุดเราก็ขึ้นมาได้ ได้ไปเที่ยววัดด้วย แต่เขามีการก่อสร้างอยู่ในขณะนั้น ปัจจุบันคงเสร็จแล้วละ พอออกจากวัดมายอดภูทับเบิกก็เจอทะเลหมอกในยามเย็น ก็สวยไปอีกแบบ ชมทะเลหมอกเสร็จก็ไปทานอาหารปิ้งย่างที่ภูสวรรค์ แล้วเข้าห้องพัก ดูรูป พร้อมๆกับฝนเทลงมา อากาศก็หนาว พัดลมเปิดไม่ได้เลย หนาวมาก แต่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้อาบน้ำ  อาบน้ำเสร็จก็นอน และนอนคนเดียว 2สาวสวยที่ไปด้วยกันก็นอนอีกห้อง รีบเข้านอนเพราะรอชมทะเลหมอกตอนตีห้า 

      พอตื่นเช้าวันอาทิตย์ ก็ต้องผิดหวังเพราะมันมีแต่หมอกปกคลุมเต็มไปหมด แต่ช้าก่อน!!!สักพักหมอกหายไป มีทะเลหมอกให้เห็น ตื่นตาตื่นใจขึ้นมาทันที ที่นี่ยังกับเมืองลับแล เมืองยูโทเปีย หรือหมู่บ้านไซเลนส์ฮิล เดี่ยวก็มืดเดี่ยวก็สว่าง เราต้องคอยสักเกตุทะเลหมอก แค่นาทีเดียวก็อย่าละสายตา

แต่ในที่สุดเราก็ได้ชมทะเลหมอกเป็นบุญตาที่ตราตรึงใจในเช้าวันนั้น พอสายๆก็ไปเที่ยว ภูหินร่องกล้า 

                           แล้วค่อยมาเล่าต่อเรื่องภูหินร่องกล้า